ลืมรหัสผ่าน
 สมัครสมาชิก
ค้นหา

สุนัขชาเป่ย Shar pei ย่นยับ น่ารักที่สุด

[คัดลอกลิงก์]
เสื้อหมา เสื้อแมว รถเข็นหมา รถเข็นแมว

ว้าววว อยากได้สักตัว หน้าตาแบ๊วมากๆๆเล้ย



รูปภาพ สุนัขชาเป่ย Shar pei ยับๆ ย่นๆ น่ารัก




รูปภาพ สุนัขชาเป่ย Shar pei ยับๆ ย่นๆ น่ารัก




รูปภาพ สุนัขชาเป่ย Shar pei ยับๆ ย่นๆ น่ารัก




รูปภาพ สุนัขชาเป่ย Shar pei ยับๆ ย่นๆ น่ารัก




รูปภาพ สุนัขชาเป่ย Shar pei ยับๆ ย่นๆ น่ารัก




รูปภาพ สุนัขชาเป่ย Shar pei ยับๆ ย่นๆ น่ารัก




รูปภาพ สุนัขชาเป่ย Shar pei ยับๆ ย่นๆ น่ารัก




รูปภาพ สุนัขชาเป่ย Shar pei ยับๆ ย่นๆ น่ารัก




รูปภาพ สุนัขชาเป่ย Shar pei ยับๆ ย่นๆ น่ารัก




รูปภาพ สุนัขชาเป่ย Shar pei ยับๆ ย่นๆ น่ารัก






Chinese Shar-Pei Dogs


Chinese Shar-Pei Dog




Chinese Shar-Pei Dogs










ยับ..ย่น สไตล์น้องหมา ชาร์ไป่

สุนัขชาร์ไป่


สุนัขชาร์ไป่


ยับ ย่น สไตล์ ชาร์ไป่ (Shar Pei)
          สุนัขตัวย่น ๆ ยับ ๆ ที่เป็นขวัญใจของคนรักสุนัขหลายต่อหลายคน ด้วยความน่ารักที่มี ทั้งรอยย่น รอยยับ จึงเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่ทำให้หลายคนหลงรักได้อย่างไม่ยาก บวกกับเป็นสุนัขที่ฉลาด สุขุม ซื่อสัตย์ และรักเจ้าของสุด ๆ คือเสน่ห์ของ ชาร์ไป่ หรือ ชาเป่ย นั่นเอง...ได้เห็น ได้ยินชื่อนี้กันมาก็บ่อย เรามาลองดูประวัติของ สุนัขชาร์ไป่ กันหน่อยเป็นไร

          สุนัขพันธุ์ชาร์ไป่ เป็นสุนัขที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน เป็นสายพันธุ์พื้นเมืองที่เกิดจากหมู่บ้านเล็ก ๆ เมืองไต้ลี่ มณฑลกวางตุ้ง และมีชีวิตอยู่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 20 ในตอนใต้ของประเทศจีน สมัยราชวงศ์ฮั่น และชาร์ไป่ ยังเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น เท่าที่มีการค้นพบมา โดยในศตวรรษที่ 13 มีเอกสารของจีนฉบับหนึ่ง กล่าวถึงสุนัขสายพันธุ์หนึ่งว่าเป็นสุนัขที่มีหนังยับย่น

          และชื่อ ชาร์ไป่ หมายความว่า ผิวของดิน แต่ก็มีการตีความผิดไปว่า ผิวของกระดาษทราย หรือผิวหนังที่หยาบกร้านคล้ายกระดาษทราย จากการตีความหมายนี้ได้กลายเป็นคุณสมบัติเฉพาะของสุนัขพันธุ์ชาร์ไป่ ที่มีผิวหนังคล้ายสีของพื้นดิน น้ำตาลบ้าง ดำ-น้ำตาลบ้าง แต่ทุกสีจะมีลักษณะเดียวกันคือ ขนสั้น

          การผสมพันธุ์และการเลี้ยงดูไม่ต่างอะไรจากพันธุ์เชาเชา แต่มีการสันนิษฐานว่า น่าจะเกี่ยวโยงกับเชา เชา เพราะมีลักษณะร่วมกัน คือมีลิ้นสีน้ำเงินเข้ม หรือม่วง เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่เก่าแก่ที่สุด และถึงกับเคยถูกบันทึกให้เป็นสุนัขที่หายากที่สุดมาแล้ว แต่ปัจจุบันได้มีการเลี้ยงกันอย่างแพร่หลาย แต่เดิม ชาร์ไป่ ไม่ได้หน้าตาแบบที่เรา ๆ เห็นกัน เพราะกว่าเราจะได้เห็นหมาย่นเหมือนผ้าห่มไปทั้งตัวอย่างนี้ ก็ผ่านการพัฒนาสายพันธุ์มาเป็นะระยะ

          ชาร์ไป่ เริ่มจากการเป็นหมาชาวบ้านชาวเมืองทั่วไป เฝ้าบ้าน เฝ้าไร่นาเรือกสวน ชาร์ไป่ ถูกพัฒนาในด้านความฉลาด และพละกำลัง หลังจากนั้น ชาร์ไป่ก็ถูกจับไปใช้ในการแข่งขัน คือเอามาต่อสู้กัน ตอนนี้เองที่เอกลักษณ์โดดเด่นของชาร์ไป่ ได้ถูกพัฒนาขึ้นมา นั่นก็ความยับย่นทั่วตัว ซึ่งว่ากันว่าเกิดขึ้นเพื่อช่วยไม่ให้ถูกคู่ต่อสู้งับไว้ได้ง่าย ๆ

ลักษณะทั่วไป

          ชาร์ไป่ เป็นสุนัขขนาดกลาง รูปร่างคล้ายกับฮิปโปโปเตมัส ขนสั้น ลักษณะภายนอกที่เห็นแล้วระบุได้ชัดเจนว่า "เจ้าคือชาร์ไป่" ก็คือหนังยับๆย่นๆ ปกคลุมบริเวณส่วนศีรษะและลำคอ แต่รอบย่นพวกนี้จะหายไปเมื่อมีอายุมากขึ้น

ลักษณะนิสัย

          เป็นสุนัขที่ฉลาดและค่อนข้างมีมาดพอสมควร ดูสุขุม นิ่ง ๆ ไม่ค่อยเป็นทั้งมิตรกับคนแปลกหน้าและสุนัขตัวอื่น ๆ แต่มีความซื่อสัตย์กับเจ้าของสุด ๆ และที่สำคัญมีความสามารถในการเฝ้าบ้านเป็นอย่างมาก เชื่อฟังคำสั่งและชอบประจบเจ้าของ ไม่ชอบใช้ความรุนแรงหรือคอยหาเรื่องกับสุนัขตัวอื่น แต่จะสู้ไม่ถอยเมื่อโดนรังแก

การดูแล

          เรื่องของการให้อาหารนั้น ผู้เลี้ยงควรให้อาหารที่มีคุณค่าสารอาหารครบถ้วนและสมดุล หลีกเลี่ยงอาหารที่ผสมสีสังเคราะห์ (ไม่ใช่สีผสมอาหาร) วัตถุกันเสียและเนื้อแดง หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ทำจากข้าวโพดและถั่วเหลือง เพราะอาจทำให้เกิดภูมิแพ้ได้ ส่วนในเรื่องของความสะอาดนั้น สุนัขชาเป่ยเป็นสุนัขที่ต้องการความสะอาด เป็นอย่างมาก เพราะชาเป่ยมีเหงื่อเยอะต้องหมั่นอาบน้ำให้สะอาดอยู่เสมอ ๆ นอกจากนี้ผู้เลี้ยงยังต้องใส่ใจเป็นพิเศษเรื่องการสะสมสิ่งสกปรกในหูที่จะทำให้อากาศถ่ายเทไม่สะดวก การที่จะเลี้ยงสุนัขชาร์ไป่ให้มีสุขภาพดีได้นั้น ผู้เลี้ยงจะต้องพาไปฉีดวัคซีน ถ่ายพยาธิ ดูแลเรื่องเห็บหมัดอย่างสม่ำเสมอ

มาตรฐานสายพันธุ์

          ขนาด :  สูงประมาณ 18-20 นิ้ว หนัก 22.5 - 30 กิโลกรัม      
   
          ศีรษะ :  หัวค่อนข้างโต แต่ไม่มากเกินไป บริเวณหน้าผากมีรอยย่นชัดเจน      
   
          ฟัน :  มีความแข็งแรง ขบแบบกรรไกร      
   
          ตา :  ดวงตาคล้ายเมล็ดอัลมอลต์ แววตาดูเศร้าหม่นๆ สีนัยน์ตาจางๆ      
   
          หู :  หูมีลักษณะเป็นรูปทรงสามเหลี่ยมและพับลง      
   
          คอ :  ลำคอมีความยาวพอดีสมส่วนกับลำตัว มีรอยยับย่นรอบลำคอ      
   
          หาง :  หางตั้งสูง      
   
          ขน :  ขนดกและสั้นมาก      
   
          สีขน :  มีเกือบทุกสี

ไขปริศนารอยยับย่นของ ชาร์ไป่

          นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยวอชิงตันในนครซีแอตเทิล สหรัฐฯ อธิบายสาเหตุที่สุนัขบางสายพันธุ์ เช่น ชาร์ไป่ มีผิวหนังย่นแตกต่างจากสุนัขพันธุ์อื่น ๆ เหตุที่เป็นเช่นนั้น ก็เนื่องมาจากในรหัสพันธุกรรมของสุนัขพันธุ์นี้ มีความแตกต่างอย่างชัดเจนจากสุนัขพันธุ์อื่น ซึ่งอาจจะเกิดมาจากยีนกลายพันธุ์ ความแตกต่างดังกล่าวคาดว่า มีบทบาทสำคัญที่ทำให้สุนัขพันธุ์นี้ดูแตกต่างทางกายภาพอย่างเห็นได้ชัด

          นักวิจัย พบว่า ยีนตัวหนึ่งซึ่งมีชื่อว่า แฮสทู มีหน้าที่ผลิตเอนไซม์ที่มีความสำคัญต่อการผลิตผิวหนัง มีความเป็นไปได้ที่เกิดการผ่าเหล่าขึ้นในยีนทำให้ ชาร์ไป่ มีผิวหนังเหี่ยวย่นทั่วร่างกาย

          นายแพทย์โจซัย อาคีย์ จากคณะวิทยาศาสตร์ ที่ศึกษาเกี่ยวกับกลุ่มยีนในเซลล์ กล่าวว่า เขาได้ศึกษาสุนัขชาร์ไป่ 32 ตัว ที่มีผิวหนังย่น และอีก 18 ตัว มีผิวเรียบ โดยได้นำมาเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอของสุนัขสายพันธุ์อื่น คณะของเขาพบว่า มีความแตกต่าง 4 อย่าง ซึ่งสำคัญระหว่างสุนัขทั้ง 2 กลุ่มนี้  กับสุนัขสายพันธุ์อื่น และความแตกต่างนี้อยู่ในยีนที่ชื่อ แฮสทู

          ยีนแฮสทูมีหน้าที่สร้างกรดไฮยารูโลนิค ซึ่งเป็นกรดชนิดหนึ่งที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของผิวหนัง กรณีเช่นนี้แทบไม่เจอในมนุษย์ แต่ถ้าเกิดการผ่าเหล่าขึ้นในยีนดังกล่าว ก็จะทำให้ผิวหนังของมนุษย์เหี่ยวย่นอย่างรุนแรงเหมือน สุนัขชาร์ไป่ ได้เช่นกัน

          นอกจากนี้ ยังมีนักวิจัย okd Universittat Autonoma de Barcelona (UAB) ประเทศสเปน ได้ทำการศึกษาค้นคว้าอย่างจริงจังถึงสาเหตุของรอยย่นบนใบหน้าของสุนัขพันธุ์ชาร์ไป่ และมุ่งความสนใจไปยังลักษณะทางพันธุกรรมของสุนัขพันธุ์นี้ และส่วนประกอบของสิ่งที่เป็นน้ำเมือกในร่างกายของสุนัขพันธุ์ชาร์ไป่ ซึ่งรายงานการวิจัยเรื่องนี้ได้ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Veterinary Dermatology และวารสารด้านลักษณะพันธุกรรม

          โดยรายละเอียดจะกล่าวถึงลักษณะการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมของสุนัขชาร์ไป่ ที่มีการตอบสนองหรือมีปฏิกิริยาตอบรับกับการที่ร่างกายของสุนัขมีปริมาณกรดไฮยารูโลนิกมากเกินไป ซึ่งกรดตัวนี้เป็นสารที่มีการรวมตัวกันอยู่ใต้ผิวหนัง และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดรอยย่นบนใบหน้า

          นักวิจัยเข้าใจว่า กระบวนการทำงานของโมเลกุลต่าง ๆ ภายในร่างกายของสุนัขนั้น จะมีการปรับเปลี่ยนลักษณะภายในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการทำงานของสารเร่งปฏิกิริยาทางเคมีหรือเอนไซม์ และลักษณะทางพันธุกรรมที่ถือเป็นวิวัฒนาการของสัตว์เพื่อพัฒนาให้ร่างกายมีความแข็งแรงขึ้นและสามารถอยู่รอดได้

sharpcei02.jpg

www.dogthailand.net
ที่มา ภาพจากอินเตอร์เนท เนื้อจากเว็บ showded.com
loading...
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

รายละเอียดเครดิต


โทรศัพท์มือถือ|รายชื่อผู้ถูกระงับบัญชี|dogthailand.net

แนะนำที่พัก โรงแรม รีสอร์ท สัตว์เลี้ยงเข้าพักได้ ทั่วประเทศ

GMT+7, 2024-11-21 21:19 , Processed in 0.082873 second(s), 26 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้