พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เสด็จไปทรงเป็นประธานเปิดตัวหนังสือ "เดอะ ปริ๊นเซส ด็อก ไดอารี่ บันทึกคุณน้ำหอม สุนัขทรงเลี้ยงของเจ้าหญิง"
เมื่อเวลา 14.07 น. วันที่ 22 มีนาคม พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เสด็จไปทรงเป็นประธานเปิดตัวหนังสือ “เดอะ ปริ๊นเซส ด็อก ไดอารี่ บันทึกคุณน้ำหอม สุนัขทรงเลี้ยงของเจ้าหญิง” เป็นการส่วนพระองค์ โดยมี วิธิต อุตสาหจิต ประธานกรรมการบริหารบริษัท บันลือ พับลิเคชั่นส์ จำกัด ในเครือบันลือกรุ๊ป บริษัทผู้ดำเนินการสร้างสรรค์จัดทำหนังสือเล่มนี้ พร้อมคณะผู้บริหารและแขกผู้มีเกียรติ เฝ้ารับเสด็จ ณ อาคารบันลือกรุ๊ป
พระองค์หญิงสิริวัณณวรีฯ ทรงเปิดตัวหนังสือพระนิพนธ์เล่มแรก
หนังสือ
“เดอะ ปริ๊นเซส ด็อก ไดอารี่ บันทึกคุณน้ำหอม สุนัขทรงเลี้ยงของเจ้าหญิง” พระนิพนธ์ในพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เป็นเรื่องราวของคุณน้ำหอม สุนัขทรงเลี้ยงและครอบครัว รวมถึงความน่ารักของนานาสัตว์ในรั้ววัง พระจริยาวัตรและความมุ่งมั่นในการทรงงานในทุกพระกรณียกิจของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ซึ่งถูกถ่ายทอดผ่านภาพประกอบสวยงามตลอดเล่ม ในรูปแบบการเล่าเรื่องสนุกสนานสไตล์ Comic Essay วาดภาพโดย ปนิศา ภูมิสิงหราช นามปากกา “ฟาสต์บีม” พิมพ์บนกระดาษถนอมสายตา ด้วยเทคนิคการพิมพ์ 4 สี จำนวน 160 หน้า ราคา 210 บาท
พระองค์หญิงสิริวัณณวรีฯ ทรงเปิดตัวหนังสือพระนิพนธ์เล่มแรก
ในการนี้ พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ประทานสัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนความว่า
ท่านหญิงเป็นคนที่ชอบสัตว์มาก ตั้งแต่สุนัข ม้า พร้อมทรงเผยถึงจุดเริ่มต้นของการทรงเลี้ยสุนัข ว่าปกติเลี้ยงสุนัขพันธุ์ลาบาดอร์ โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ และไซบีเรียน ฮัสกี้ สมัยประถมเลี้ยงสายพันธุ์ชิสุเป็นสุนัขพันธุ์เล็ก เมื่อตายแล้วจึงหันมาเลี้ยงสุนัขพันธุ์ใหญ่ ก่อนหน้ามีคุณน้ำหอม เริ่มได้รู้จักสุนัขพันธุ์ยอร์กเชียร์ เทอร์เรียร์ ชื่อคุณตัวเล็กมาเลี้ยง จากนั้นมีพระสหายนำสุนัขพันธุ์ยอร์คเชียร์ เทอร์เรียร์ ซึ่งเป็นสุนัขพันธุ์เล็ก มาถวาย ตอนแรกไม่ชอบ เพราะชินกับสุนัขพันธุ์ใหญ่ แต่เมื่อได้สัมผัสพบว่ามีความน่ารัก สำหรับวิธีเลี้ยงก็ต่างจากชิสุ ถือเป็นหนึ่งในสิบโลกที่ฉลาด และมีคาแรกเตอร์เป็นของตัวเอง พระสหายทูลเกล้าฯ ถวายพร้อมแนะนำฟาร์มที่เลี้ยงสุนัข คุณน้ำหอมมาเติมเต็มความรัก มีความเป็นเพื่อนที่ดี ถือว่าเป็นเพื่อนแสบๆ คนหนึ่ง ทั้งยังเป็นเด็กที่มีความน่ารัก เปิ่นๆ ค่อนข้างมีคาแรกเตอร์พิเศษ มีความสูงศํกดิ์ มีอะไรทุกๆอย่าง รวมไปถึงพระองค์หญิงชอบมีจินตนาการในการคุยกับเขา เรามักจะเข้าใจกัน มองตากันก็จะเข้าใจกัน เขาทำให้เราม่ีความสุขทุกวัน บางทีก็มีความน่าหมั่นไส้ มีความน่าริษยา ทุกอารมณ์ ทำเรื่องปวดหัวให้ทุกเวลา เรื่องน่ารักก็ดี รวมถึงมีความฉลาด และทำให้เราหัวเราะได้ทั้งวัน
พระองค์หญิงสิริวัณณวรีฯ ทรงเปิดตัวหนังสือพระนิพนธ์เล่มแรก
นอกจากนี้เขายังมีจินตนาการเพราะอยู่กับคนจำนวนมาก และทุกคนให้ความรักและยังมีความเป็นนางแบบด้วยเพราะเขาคิดว่าเขาสวย บางทีก็ไประกวดสุนัข เขารู้ตัวว่าไม่ได้สวยที่สุดในงานแต่เขาน่ารัก ตาเป็นประกาย เป็นสุนัขมีชีวิตชีวา ท่านหญิงอยากให้เขามีความเป็นธรรมชาติ แล้วยังมีวีรกรรมมีสุนัขหนุ่มเดินตาม ไปร้านไหนมีคนรักและคนจำได้ และยังสามารถสื่อสารภาษาทั้งไทย อังกฤษ และฝรั่งเศสได้ ถือเป็นเสนอของเขา ซึ่งตัวอื่นก็กำลังสอนอยู่ปัจจุบันมีสุนัขทรงเลี้ยง 8 สุนัข สำหรับลูกของคุณน้ำหอมทั้ง 5 สุนัขตั้งชื่อคล้องจองตัวของคุณน้ำหอมและสิ่งที่ชอบ รวมถึงกิจกรรมที่ทำร่วมกันตลอดเวลา เช่น การเดินทาง
นอกจากนี้ ทรงเล่าว่า ก่อนจะพระนิพนธ์หนังสือ “เดอะ ปริ๊นเซส ด็อก ไดอารี่ บันทึกคุณน้ำหอม สุนัขทรงเลี้ยงของเจ้าหญิง” ทรงทำเพจเล็กๆในเฟซบุ๊ก เป็นไพรเวทเฉพาะกลุ่มเล็กๆ เพื่อนๆ และขยายไปในบางกลุ่ม เป็นเพจเฟซบุ๊ก perfume (เพอร์ฟูม) นำเสนอเรื่องราวของคุณเพอร์ฟูม หรือน้ำหอมทั้งหมด ตั้งแต่คุณน้ำหอมทำอะไร กินอะไร กินข้าววันนี้เอาหน้าจุ่มชาม หลายๆ อย่าง จนมีความรู้สึกว่ามัน ภาพเยอะขึ้น สตอรี่เยอะขึ้น ก็เลยคิดว่ามันถึงเวลาแล้วที่จะต้องทำหนังสือการ์ตูนสักเรื่องหนึ่งให้ทุกคนได้อ่าน ให้คนทุกคนที่รู้จักคุณน้ำหอมได้ใกล้ชิดกับความน่ารัก อยากแชร์ความน่ารักสดใส
ปกติเคยเชียนคอลัมน์แนวแฟชั่นลงในนิตยสาร แต่หนังสือเล่มแรกนี้ ความยาก คือมีข้อมูลจำนวนมากเกินไป ต้องคัดเลือกเรื่องราวที่ดีที่สุดและได้สื่อสารกับนักวาดภาพประกอบ เนื่องจากมีเวลาที่จำกัดให้คำแนะเรื่องคาแรกเตอร์ของการ์ตูน สี ต้องมีความชัดเจน หน้าตาของสุนัขของแต่ละสุนัขต้องมีความถูกต้อง คืองานซึ่งทีมงานก็ทำการบ้านมาพอสมควร เพราะอยากจะให้ผู้อ่านได้รู้จักคุณน้ำหอมอย่างแท้จริง ในส่วนพระองค์ต้องแบ่งเวลาทำงานร่วมกับทีมงาน ซึ่งมีตั้งแต่พระพี่เลี้ยง พระสหาย ทีมหนังสือ บางทีหลังเลิกจากงานแฟชั่น ก็ยังมีการพูดคคุยต้องทำหนังสือเล่มนี้ให้สำเร็จ
สำหรับรายได้จากการจำหน่ายหนังสื่อเล่มดังกล่าว จะนำไปบริจาคให้กับโรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จริงๆ แล้วอยากช่วยรพ.สัตว์ทุกที่ แต่เราเริ่มจากอะไรที่ใกล้ตัวก่อน คือสุนัขทรงเลี้ยงส่วนใหญ่อยู่ที่รพ.สัตว์เกษตร เมื่อเวลาที่พระองค์เสด็จไปรพ.สัตว์. ก็จะเจอกับสัตว์ป่วยนอนเรียงราย จึงอดไม่ได้ที่จะเข้าไปคุยกับเจ้าของสัตว์เหล่านั้น ได้ถามไถ่ถึงอาการของสัตว์ที่ไม่สบาย แล้วก็ได้คุยกับสัตวแพทย์หลายสาขา ได้อ่านโปสเตอร์ที่ติดประกาศรับบริจาคเลือดให้สุนัข เคยนำหมาพันธุ์ใหญ่ไปบริจาคเลือด ช่วงเหตุการณ์น้ำท่วม ก็ระดมทุนช่วยเหลือสัตว์เพราะว่าสัตว์พูดไม่ได้ บางทีช่วยเหลือสุนัขข้างถนน โดยให้อาหารและฉีดวัคซีนทำเหมือนค่ายเล็กๆ ไม่ได้ออกข่าวพระราชสำนัก ก็เลยเหมือนจุดประกายทำอะไรมาต่อเนื่องและยังมีโครงการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ทะเลอยู่แล้ว ดูแลช่วยเหลือสัตว์ทะเลและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนำ และทำหนังสือด้วย ก็จะกลายเป็น “เจ้าหญิงรักษ์โลก “
เมื่อผู้สื่อข่าวทูลฯ ถามถึงต้นแบบในการทรงรักสุนัข พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงเผยว่า การรักสุนัขเป็นพื้นฐานของมนุษย์ตั้งแต่สมัยโบราณ สุนัขคือเพื่อนที่ติดตาม ซื่อสัตย์ที่สุดกับเจ้าของ และเป็นเพื่อนที่ทำงานด้วยกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุข และอยู่ได้กับทุกเพศทุกวัย ซึ่งทุกสายพันธุ์เป็นอย่างนี้ เมื่อเขาดูแลทางด้านจิตใจแล้ว เราก็ต้องดูแลเขาให้ดี
พระองค์หญิงสิริวัณณวรีฯ ทรงเปิดตัวหนังสือพระนิพนธ์เล่มแรก
โชติกา-วิธิต อุตสาหกิจ
ด้าน วิธิต อุตสาหจิต ประธานกรรมการบริษัท บันลือ พับลิเคชั่นส์ จำกัด กล่าวว่า การจัดทำหนังสือ“เดอะ ปริ๊นเซส ด็อก ไดอารี่ บันทึกคุณน้ำหอม สุนัขทรงเลี้ยงของเจ้าหญิง”ของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ซึ่งทรงเป็นประธานคณะทำงานในการจัดทำหนังสือเล่มนี้อย่างใกล้ชิด ประทานคำพระราชดำริทั้งในส่วนของเรื่องและภาพ อีกทั้งประทานภาพถ่ายของสุนัขทรงเลี้ยงเพื่อนำเสนอในหนังสือเล่มนี้และสื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ เพื่อให้หนังสือเล่มนี้มีความสวยงาม สมบูรณ์ และเป็นประโยชน์ และเป็นความสุขต่อผู้อ่านทุกคน หนังสือเล่มนี้เหมาะกับผู้อ่านทุกเพศทุกวัย โดยเล่าถึงพระเมตตาคุณของพระองค์ที่ทรงมีพระกรุณาต่อครอบครัวสุนัขทรงเลี้ยงและนานาสัตว์ และพระจริยวัตรและความมุ่งมั่นในการทรงงานในทุกพระกรณียกิจ ความน่ารักของม้าทรงและสุนัขทรงเลี้ยงถูกถ่ายทอดผ่านภาพประกอบอย่างสวยงามตลอดเล่ม และจัดพิมพ์บนกระดาษถนอมสายตาด้วยเทคนิคการพิมพ์4สี ทั้งนี้ รายได้จากการจำหน่ายหนังสือหลังหักค่าใช้จ่ายนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อสมทบทุนโรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ที่มา
http://www.komchadluek.net/news/lifestyle/317468