ก่อนพาน้องหมาไปต่างประเทศ ต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง ขั้นตอนการเตรียมตัวแบบไหนมาอ่านกัน
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ การหาข้อมูลอย่างละเอียดเกี่ยวกับข้อบังคับหรือข้อปฏิบัติต่างๆ ของการนำสัตว์เลี้ยงเข้าประเทศที่จะเดินทางไป ซึ่งโดยปกติเราสามารถค้นหากฎและแนวทางการเตรียมตัวคร่าวๆ ได้จากอินเทอร์เน็ต (เช่น britischebotschaft.de, defra.gov.uk) แต่เพื่อความถูกต้องแน่นอนของข้อมูลควรติดต่อไปยังสถานทูตของประเทศที่จะไป และสอบสามเกี่ยวกับรายละเอียด ข้อปฏิบัติ และข้อห้ามต่างๆ เกี่ยวกับการนำสัตว์เลี้ยงเข้าประเทศ โดยสิ่งสำคัญที่ต้องสอบถามให้ชัดเจนคือ เอกสารสำคัญที่ต้องใช้ และระยะเวลาที่ยืนเอกสารว่ามีระยะเวลาให้ยื่นเอกสารได้ภายในกี่วัน (เพราะ แต่ละประเทศจะมีระยะเวลาในการบังคับให้ยื่นเอกสารที่แตกต่างกัน เช่น สุนัขหรือสัตว์เลี้ยงอื่นๆที่จะเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น จะต้องแจ้งให้กับ The Animal Quarantine Bureau of Japan ซึ่งจะออกเอกสาร Approval of Inspection of Animalให้ โดยจะต้องแจ้ง ล่วงหน้า 40 วันก่อนวันที่สัตว์เลี้ยงจะเดินทางถึงประเทศญี่ปุ่น เป็นต้น)
สาเหตุที่เราต้องสอบถามรายละเอียดต่างๆ อย่างรอบคอบก็เพราะว่า ในแต่ละประเทศนั้นการนำสัตว์เลี้ยงเดินทางเข้าประเทศมีกฏ ข้อบังคับต่างๆ ที่แตกต่างกัน เช่น ประเทศญี่ปุ่น มีกฎที่เข้มงวดและละเอียดที่สุด ต้องมีเวลาเตรียมตัวสัตว์เลี้ยงอย่างน้อย 7-12 เดือน สิ่งที่ประเทศญี่ปุ่นต้องการคือ การฝังไมโครชิพ การวัคซีนพิษสุนัขบ้าอย่างน้อยสองเข็มห่างกันอย่างน้อย 30 วัน ต้องการตรวจ rabies titer และต้องอยู่ภายในประเทศไทย 180 วันนับตั้งแต่วันที่ตรวจเลือด และยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ อีก
ส่วนในประเทศไต้หวัน มีกฎระเบียบปลีกย่อยคือ นอกจากต้องตรวจ rabies titer แล้วสัตว์เลี้ยงจะต้องตรวจไข้หวัดนก(avian flue) ทำวัคซีนไข้หวัดนกก่อนออกเดินทาง และต้องอยู่ในประเทศ 6 เดือนนับตั้งแต่วันตรวจ rabies titer
ด้านประเทศในยุโรปที่อยู่ภายใต้กฎ EU ต้องการฝังไมโครชิพ ฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าอย่างน้อยหนึ่งเข็มอย่างน้อย 30 วันแต่ไม่เกิน 1 ปีก่อนออกเดินทาง การตรวจ rabies titer ตัวอย่างประเทศที่ต้องอยู่ในประเทศอย่างน้อย 3 เดือนนับจากวันที่ตรวจ rabies titer เช่น ฝรั่งเศส เยอรมัน เนเธอแลนด์ ซึ่งในแต่ละประเทศของยุโรปก็จะมีกฎปลีกย่อยลงไปอีก เช่น ประเทศอังกฤษไม่ใช้กฎ EU ไม่ต้องการไมโครชิพ ไม่ต้องการการฉีดวัคซีน แต่สัตว์จะถูกกักกันที่ด่านกักกันสัตว์ของประเทศอังกฤษเป็นเวลา 6 เดือน เช่นเดียวกับประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ สัตว์จะได้รับวัคซีนและการฝังไมโครชิพที่นั่น แต่ในกรณีที่อาจต้องนำสัตว์ไปประเทศอื่นๆ ที่อยู่ภายใต้กฎ EU ก็จำเป็นที่จะต้องทำตามกฎ EU ด้วย ประเทศสวีเดนต้องทำตามกฎ EU และต้องถูกกักกันอยู่ที่ด่านกักกันสัตว์ที่สวีเดน 4 เดือนเป็นต้น
เตรียมสุขภาพและเอกสารสำคัญของน้องหมาให้พร้อมก่อนเดินทางไปต่างประเทศ
และนอกจากการศึกษารายละเอียดกฏ ข้อบังคับต่างๆ เกี่ยวกับการนำสัตว์เลี้ยงเข้าประเทศของประเทศที่ต้องการจะเดินทางไปแล้ว ยังมีเรื่องของการเตรียมตัวในขั้นพื้นฐานก่อนการพาน้องหมาเดินทางไปต่างประเทศ นั่นก็คือ การเตรียมตัวในด้านสุขภาพของน้องหมา และการเตรียมเอกสารสำคัญต่างๆ ที่จำเป็น เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่าจะต้องเตรียมอะไรบ้าง
1. น้องหมาที่จะสามารถเดินทางไปต่างประเทศได้นั้น ต้องมีอายุเกิน 4 เดือนขึ้นไป และได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วน โดยเฉพาะโรคพิษสุนัขบ้าและต้องมีสมุดวัคซีนยืนยัน
2. เราจะต้องพาน้องหมาไปฝังไมโครชิพ iso 11784 หรือ 11785 โดยสามารถฝังได้ที่โรงพยาบาลสัตว์หลายแห่ง ค่าใช้จ่ายในการฝังประมาณ 600 บาท สิ่งที่ไม่ควรลืมคือ ตอนกรอกแบบฟอร์มขอใบรับรองไมโครชิพ จะต้องระบุว่าขอภาษาอังกฤษด้วยนะคะ
3. หลังจากนั้นหนึ่งเดือนจะต้องพาสุนัขไปตรวจเลือด สำหรับผู้ที่จะพาน้องหมาไปยังประเทศในกลุ่ม EU มีเงื่อนไขว่าจะต้องเป็นห้องแลปที่ได้รับการรับรองโดยกลุ่มประเทศอียูเท่านั้น โดยค่าใช้จ่ายในการตรวจเลือดค่อนข้างสูงมาก ประมาณ 15,000 บาท
4. จากนั้นเมื่อได้ผลเลือดเรียบร้อย ให้กรอกข้อมูลลงไปในหนังสืออนุญาตให้นำเข้าสัตว์จากประเทศปลายทาง โดยข้อมูลสำคัญที่ต้องกรอกคือ ข้อมูลระบุรายละเอียดของน้องหมา (เช่น อายุ สายพันธุ์ สี ขนาด ฯลฯ) ข้อมูลของเจ้าของ วันที่ฉีดวัคซีน ฝังไมโครชิป ตรวจเลือด และรับรองผลการตรวจเลือดโดยสัตวแพทย์ของรัฐ ซึ่งกรณีนี้ ผู้ที่มีอำนาจลงนามได้คือผู้อำนวยการที่สำนักงานกรมปศุสัตว์
และเมื่อจัดการเรื่องหนังสืออนุญาตให้นำเข้าสัตว์จากประเทศปลายทางเรียบร้อยแล้ว เราก็จะต้องเตรียมหลักฐานอื่น ๆ เช่น สมุดวัคซีนหมา ใบรับรองไมโครชิพ บัตรประจำตัวหรือหนังสือเดินทาง(พาสปอร์ต)ของเรา ฯลฯ ถ่ายเอกสารเตรียมไว้หลายๆ ฉบับนะคะ
ขั้นตอนการพาน้องหมาออกนอกประเทศ
หลังจากจัดการเรื่องการตรวจสุขภาพและเอกสารสำคัญกันเรียบร้อยแล้ว ทีนี้เรามาดูขั้นตอนการดำเนินการพาน้องหมาออกนอกประเทศกันบ้าง
1. จะต้องเตรียมหนังสืออนุญาตให้นำเข้าสัตว์จากประเทศปลายทาง (Import permit) พร้อมเงื่อนไขการนำเข้า(Requirement) ซึ่งต้องมีรายละเอียด ดังนี้
- ชนิดของสัตว์ เพศ พันธุ์ อายุของสัตว์ที่อนุญาตให้นำเข้า
- ชนิดของวัคซีนและระยะเวลาการฉีดวัคซีน
- การตรวจรับรองเพิ่มเติม เช่น ระดับภูมิคุ้มกันโรคพิษสุนัขบ้า ต้องไม่ต่ำกว่า 0.5 IU/ml. ผลการตรวจโรคไข้หวัดนก เป็นต้น (แล้วแต่ประเทศปลายทางกำหนด)
- สัญลักษณ์ประจำตัวสัตว์ เช่น รอยสัก , ไมโครชิพ
- ข้อห้ามอื่น ๆ ห้ามตัดหู , ตัดหาง
2. ผู้มีความประสงค์ส่งออกสัตว์
- จะต้องติดต่อขออนุญาต ณ ด่านกักกันสัตว์ที่ท่าอากาศยานของสายการบินที่จะโดยสาร โดยต้องล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 7 วัน เช่น ท่าอากาศยานกรุงเทพ เชียงใหม่ , ภูเก็ต ฯลฯ โดยกรอก คำร้องแบบ ร.1/1 พร้อมยื่นเอกสารประกอบ
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน , สำเนาทะเบียนบ้าน , หรือสำเนา หนังสือเดินทาง
- สำเนาหนังสือจดทะเบียนนิติบุคคล (กรณีบริษัท , ห้างหุ้นส่วน)
- หนังสือมอบอำนาจพร้อมสำเนาบัตรผู้มอบและผู้รับมอบ
- สมุดรับรองกรณีการฉีดวัคซีนพร้อมสำเนา
3. ผู้ที่จะนำสัตว์เลี้ยงไปต่างประเทศควรนำสัตว์เลี้ยงมาตรวจสุขภาพสัตว์ก่อนการส่งออก ประมาณ 2-3 วัน เนื่องจากบางครั้งอาจต้องรอคิวนานอาจทำให้ขึ้นเครื่องบินไม่ทัน
4. เอกสารประกอบคำร้องถูกต้อง ครบถ้วน และสัตว์มีสุขภาพดี ด่านกักกันสัตว์จะออก ใบอนุญาตส่งออกสัตว์ไปต่างประเทศ (แบบ ร.9) และหนังสือรับรองสุขภาพสัตว์ (Health Certificate) เพื่อนำไปแสดงต่อศุลกากร เจ้าหน้าที่สายการบิน และสัตวแพทย์ประเทศปลายทาง โดยค่าธรรมเนียมการส่งออกสำหรับสุนัขจะอยู่ที่ 50 บาท (ใบ Health Certificate ไม่ควรขอล่วงหน้าก่อนเดินทางหลายๆ วัน เพราะว่าหนังสือรับรองนี้มีอายุ 10 วัน เท่านั้น )
หลังจากที่ดำเนินการเรื่องเอกสารสำคัญต่างๆ ที่จะใช้นำน้องหมาเดินทางออกนอกประเทศเรียบร้อยแล้ว ที่นี้ก็ถึงเวลาเลือกสายการบินที่จะใช้เดินทางแล้วล่ะค่ะ โดยในขั้นตอนนี้เพื่อความสะดวกควรเลือกสายการบินที่บินตรงไปถึงประเทศปลายทางเลย นอกจากนี้ยังควรเลือกสายการบินที่มีบริการให้น้องหมาเดินทางไปพร้อมกับเราในรูปแบบของ accompanied luggage (โหลดลงใต้เครื่องในลักษณะเดียวกับสัมภาระ) ซึ่งทางสายการบินจะคิดราคาเป็นน้ำหนัก ขึ้นอยู่ว่าจะไปที่ไหน แล้วคูณด้วย 150% นอกนั้นก็มีค่า terminal charge และค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกเล็กน้อยค่ะ
... ค่อนข้างมีขั้นตอนที่วุ่นวายและซับซ้อนพอสมควรเลยทีเดียวนะคะ เห็นแบบนี้แล้วใครที่คิดจะพาน้องหมาโกอินเตอร์ไปเที่ยวต่างประเทศก็ต้องศึกษาข้อมูลกันอย่างละเอียดหน่อยนะคะ เพราะการเดินทางไกลๆ อาจส่งผลต่อสุขภาพทั้งกายและใจของน้องหมาได้ ดังนั้นจึงควรศึกษารายละเอียดในการเดินทางให้รอบคอบ และตรวจเช็คสุขภาพน้องหมาให้พร้อมเต็มร้อยก่อนเดินทางทุกครั้งนะคะ
บทความโดย : Dogilike.com
ข้อมูลอ้างอิงบางส่วน :
http://www.thonglorpet.com/
ภาพประกอบ :
http://www.businessjetaccess.com/charterteam.html
http://www.dogs4dogs.com/shots.html
http://k9carfencesafe.com/category/dog-travel/
http://www.msnbc.msn.com/id/31909297/ns/travel-pet_travel/t/pet-airways-hits-skies/#.UPkkuiee_TA
|