กฎหมาย คนทำร้ายหมา มี พ.ร.บ.คุ้มครอง แล้วถ้าคนถูกหมากัด มีอะไรคุ้มครองไหม ? มีคำตอบอ่านเลย

กฎหมาย คนทำร้ายหมา มี พ.ร.บ.คุ้มครอง แล้วถ้าคนถูกหมากัด มีอะไรคุ้มครองไหม ?

   เปิดกฎหมายจากข่าวดังสุนัขขย้ำเด็กแผลเหวอะ ชี้หากหมากัด สามารถตีได้โดยอ้างเหตุจำเป็น โดยไม่ต้องรับโทษ แต่ต้องไม่เกินกว่าเหตุ

         จากข่าวร้อนที่แชร์กันอย่างมากมาย เมื่อเด็กหญิงคนหนึ่งโชคร้ายถูกสุนัขกัดจนหน้าเหวอะ (อ่านข่าว หมาคลั่งฟัดหน้าเด็กหญิงไม่รู้อีโหน่อีเหน่ แผลเหวอะ) โดยกรณีนี้มีคนทวงถามว่า ตอนนี้มี พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ และเป็นคดีอาญายอมความไม่ได้ แต่เมื่อสุนัขกัดเด็กนั้น ก็น่าจะมี พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ที่โดนสัตว์ทำร้ายด้วย

         เกี่ยวกับเรื่องนี้ (24 พฤษภาคม 2559) ทางกระปุกดอทคอมก็ขอตอบข้อสงสัยจากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งจริง ๆ แล้วจะบอกว่ากฎหมายนั้นได้กำหนดเรื่องนี้ไว้นานแล้ว และได้กำหนดไว้ในกฎหมายหลักด้วย ซึ่งต้องบอกก่อนว่าข้อเท็จจริงในแต่ละเหตุการณ์นั้นย่อมแตกต่างกันไป ดังจะอธิบายคร่าว ๆ พอเข้าใจต่อไปนี้

         สมมติว่าถ้ามีสุนัขมากัดลูกเราเหมือนในข่าว ตัวเด็กเองอาจไม่รู้เรื่อง ได้แต่ร้องไห้เพราะกลัวและเจ็บ เราสามารถตีสุนัขได้โดยอ้างเหตุจำเป็นได้ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา

         มาตรา 67 ผู้ใดกระทำความผิดด้วยความจำเป็น

         (1) เพราะอยู่ในที่บังคับ หรือภายใต้อำนาจซึ่งไม่สามารถหลีก เลี่ยงหรือขัดขืนได้ หรือ
         (2) เพราะเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นพ้นจากภยันตรายที่ใกล้จะถึง และไม่สามารถหลีกเลี่ยงให้พ้นโดยวิธีอื่นใดได้ เมื่อภยันตรายนั้นตน มิได้ก่อให้เกิดขึ้นเพราะความผิดของตน

         ถ้าการกระทำนั้นไม่เป็นการเกินสมควร ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ

         กล่าวคือ สุนัขที่เข้ามากัดลูกของเรา เป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ และเราไม่ได้ก่อให้เกิดขึ้น คือเราไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับมันเลย เดินอยู่ดี ๆปรี่เข้ามากัด สามารถอ้างเหตุจำเป็น ตี เตะ สุนัข เพื่อป้องกันไม่ให้มันเข้ามาทำร้ายได้ ซึ่งถ้าทำไปไม่เกินกว่าเหตุก็ไม่ต้องรับโทษ

         นอกจากนี้ เจ้าของสุนัขจะรับผิดชอบอย่างไร ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ปพพ.) กำหนดไว้ในเรื่องละเมิดอันเกิดจากทรัพย์ที่เป็นสัตว์ตามมาตรา 433 ถ้าความเสียหายเกิดขึ้นเพราะสัตว์ เจ้าของสัตว์หรือบุคคลผู้ที่ดูแลสัตว์นั้นแทนเจ้าของ จะต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ฝ่ายที่ต้องเสียหายที่เกิดจากสัตว์นั้น

ที่มา kapook.com