บุกตรวจ อาณาจักรช้างพัทยา ยันเรือชมบ่อจระเข้ปลอดภัยแน่นอน น่าหวาดเสียวมาก

บุกตรวจ อาณาจักรช้างพัทยา ยันเรือชมบ่อจระเข้ปลอดภัยแน่นอน

    


เข้าตรวจ อาณาจักรช้างพัทยา พบมีจระเข้ร่วม 4,000 ตัว ผู้ประกอบการยันเรือมีความปลอดภัยสูง มีกรงเหล็กกั้นบ่อ 3 ชั้น มีเรือสำรองรอรับนักท่องเที่ยวหากเกิดเหตุฉุกเฉิน

จากกรณีฮือฮา อาณาจักรช้างพัทยา จัดที่เที่ยวสุดแปลกให้นักท่องเที่ยวล่องแพกลางบ่อจระเข้ พร้อมมีการให้อาหารจระเข้ ซึ่งทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้แสดงความกังวลในด้านความปลอดภัย โดยมองว่าเป็นกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งหน่วยงานในพื้นที่ควรเข้าตรวจสอบนั้น [อ่านข่าว : ททท. จับตา อาณาจักรช้างพัทยา จัดล่องแพกลางดงจระเข้ ชี้เสี่ยงสูงมาก]

ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (15 กรกฎาคม 2559) พล.ต.ต. อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร ประมง ป่าไม้ ปศุสัตว์จังหวัดชลบุรี และผู้บริหารเทศบาล ต.ห้วยใหญ่ เดินทางเข้าตรวจสอบ อาณาจักรช้างพัทยา ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยมีนายอุเทน ยังประภากร เจ้าของสถานที่ คอยให้การต้อนรับ

จากการตรวจสอบ พบว่าสถานที่ดังกล่าวมีเนื้อที่หลายร้อยไร่ ภายในมีสัตว์ป่านานาชนิด อาทิ ช้าง จระเข้ เสือดาว เสือโคร่ง เสือดำ นกเงือก ฯลฯ ซึ่งมีใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองและใบอนุญาตเปิดสวนสัตว์อย่างถูก ต้องตามกฎหมาย เปิดให้นักท่องเที่ยวซึ่งโดยมากเป็นกรุ๊ปทัวร์ต่างชาติมาเที่ยว

    

ขณะที่บ่อจระเข้ซึ่งตกเป็นข่าว มีอยู่ด้วยกัน 2 บ่อ โดยบ่อแรกพื้นที่ประมาณ 10 ไร่ มีจระเข้อยู่ประมาณ 1,000 ตัว ส่วนบ่อที่ 2 พื้นที่ประมาณ 38 ไร่ มีจระเข้อยู่ในบ่อจำนวน 3,000 ตัว โดยบ่อที่เปิดให้นักท่องเที่ยวลงเรือไปให้อาหารจระเข้นั้น จะต้องผ่านประตูที่มีลูกกรงเหล็กกั้น 3 ชั้น เพื่อความปลอดภัย ส่วนตัวเรือที่ใช้เป็นเรือมาตรฐานพิเศษที่พัฒนาขึ้นมาเองและจดสิทธิบัตรไว้ เรียบร้อยแล้ว มีความยาว 6 เมตร กว้าง 2.5 เมตร รับน้ำหนักได้ 8 ตัน แต่จำกัดให้นักท่องเที่ยวลงได้คราวละ 15 คน โดยจะมีผู้ดูแลจำนวน 2 คน คือคนขับเรือ และคนดูแลนักท่องเที่ยว ปัจจุบันเป็นเรือรุ่นที่ 4 และกำลังจะสร้างรุ่นที่ 5 ในอีกไม่นาน ยืนยันว่าเรือมีความปลอดภัย 100%

นอกจากนี้ยังได้กำชับให้ไกด์นำเที่ยวแจ้งลูกทัวร์ให้ปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่ง ครัด แต่ถ้าหากมีเหตุฉุกเฉิน อาทิ เรือเสียอยู่กลางบ่อจระเข้ไม่สามารถแล่นต่อไปได้ ทางอาณาจักรช้างก็มีแผนรองรับโดยการนำเรืออีกลำมาถ่ายเทนักท่องเที่ยว หรือลากจูงเพื่อนำเรือเข้าฝั่ง

ทางด้าน พ.อ. ทัศไนย ประทุมทอง รอง ผอ.กอ.รมน.จว.ชลบุรี ได้ให้ข้อเสนอแนะว่า เรือที่นำนักท่องเที่ยวลงบ่อจระเข้ควรมีเครื่องยนต์ที่ทำความเร็วได้มากกว่า นี้ และมีสลิงหรือเชือกที่พานักท่องเที่ยวกลับเข้าฝั่งได้เร็วยิ่งขึ้น พร้อมมีการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุเพื่อรองรับด้านความปลอดภัยไว้ด้วย

นอกจากนี้อยากให้หน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องการต่อเรือ มาตรวจสอบเรือของทางอาณาจักรช้าง ว่าได้มาตรฐานด้านความปลอดภัยมากน้อยเพียงใด เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว ขณะที่ทางผู้ประกอบการและพนักงานเองก็ไม่ควรประมาทเลินเล่อและป้องกันไม่ให้ เกิดเหตุการณ์ร้ายแรง เพราะจะทำให้ส่งผลเสียต่อการท่องเที่ยวของเมืองพัทยา

ภาพจาก ครอบครัวข่าว 3, เฟซบุ๊ก อาณาจักรช้าง
http://travel.kapook.com/view152693.html