ลืมรหัสผ่าน
 สมัครสมาชิก
ค้นหา

พนักงานคาร์โก้ ขอชี้แจงความจริงกรณีหมาตาย ลั่นเจ้าของพูดความจริงครึ่งเดียว ส่งสัตว์มา 8 ปีมีสุนัขตายมาแล้ว 7-8 ตัวเท่านั้น

[คัดลอกลิงก์]
เสื้อหมา เสื้อแมว รถเข็นหมา รถเข็นแมว

พนักงานคาร์โก้ ขอชี้แจงความจริงกรณีหมาตาย ลั่นเจ้าของพูดความจริงครึ่งเดียว

aaaaaaaaaaaaaaaaa.jpg

aaa_2.jpg


         พนักงานคาร์โก้ ขอชี้แจงความจริงกรณีหมาตาย ชี้เจ้าของหมาพูดความจริงครึ่งเดียว ยันส่งหมามากว่า 2 แสนตัว มีตายแค่ 7-8 ตัว ส่วนมากเป็นพันธุ์หน้าสั้น หรือไม่ก็มีปัญหาเรื่องสุขภาพ

            จากกรณีสะเทือนใจคนรักหมา เมื่อน้องพอใจ สุนัขตัวหนึ่งมีอันต้องตายระหว่างการขนส่งผ่านคาร์โก้ของสายการบินนกแอร์ โดยได้รับแจ้งว่าสุนัขตายตั้งแต่ก่อนขึ้นเครื่อง ซึ่งต่อมา พาที สารสิน ผู้บริหารสายการบินนกแอร์ ก็ได้ออกมาแสดงความเสียใจในเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมประกาศจะไม่รับสัตว์เลี้ยงอีกนั้น [อ่านข่าว : นกแอร์ ห้ามนำสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องอีกต่อไปแล้ว หลังทำ ไซบีเรียน น้องพอใจ เสียชีวิต ดราม่าหนักมากสำหรับคนรักสัตว์เลี้ยง]

            ความคืบหน้าล่าสุด (9 สิงหาคม 2559) โลกออนไลน์ได้มีการแชร์ต่อข้อความของ คุณ Suraphon Chaiyot ซึ่งขอออกมาชี้แจงความจริงในฐานะพนักงานคาร์โก้ โดยไม่เกี่ยวกับสายการบิน ชี้ว่า
‪#‎ชี้เเจงเรื่องสุนัขตายบนเครื่องนกเเอร์‬
ผมขอชี้แจงความจริงในฐานะพนักงานคาร์โก้นกแอร์ โดยไม่ได้เกี่ยวกับสายการบินนกแอร์ ผมทนไม่ได้ที่บอกว่านกแอร์ทำสุนัขตาย คาร์โก้นกแอร์รับ-ส่ง สัตว์เลี้ยงอยู่ 3 ชนิด คือ สุนัข แมว กระต่าย มาประมาณ 8 ปี ขนส่งมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 แสนตัว ยอมรับว่ามีสุนัขตายมาแล้ว 7-8 ตัว เฉลี่ยปีละ 1 ตัว สุนัขที่ตายกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ เป็นสุนัขพันธุ์หน้าสั้น พันธุ์ปั๊ก ซึ่งเจ้าของก็ยอมรับและเข้าใจดี อีกไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ เจ้าของยอมรับว่าสุนัขมีปัญหาด้านสุขภาพอยู่แล้ว และกว่าครึ่งหนึ่งของสุนัขที่เสียชีวิตทั้งหมดเกิดขึ้นตอนหน้าร้อนของปีนี้ซึ่งมีอุณหภูมิสูงมาก ซึ่งทางคาร์โก้ได้ประกาศงดรับสัตว์เลี้ยงช่วงนั้นเป็นเวลา 1 เดือน และงดรับสุนัขพันธุ์หน้าสั้น ซึ่งก็ทำให้ไม่มีสุนัขตายอีกเลย ซึ่งตัวที่ตายล่าสุดเจ้าของได้เรียกร้องเงินชดเชย 16,800 บาท แต่ทางคาร์โก้ปฏิเสธ เขาจึงไปโพสต์ในโซเชียลจนเป็นข่าวโด่งดัง บอกว่าสุนัขไม่ได้อยู่ในห้องแอร์ตลอดตามที่เคยถามพนักงาน คาร์โก้นกแอร์เป็นขนส่งสัตว์เลี้ยงภายในประเทศเจ้าเดียวที่มีห้องแอร์ให้สัตว์เลี้ยงพัก คงจะไม่มีพนักงานคนไหนที่จะมาอธิบายถึงขั้นตอนอย่างละเอียดในกรณีที่ถามว่าสุนัขอยู่ในห้องแอร์ไหม ทุกคนต้องตอบว่าอยู่ในห้องแอร์ แต่ขั้นตอนการปฏิบัติงานจริง ๆ ไม่มีทางเป็นไปได้เลยว่าสุนัขจะต้องอยู่ห้องแอร์ตลอดเวลา เพราะมันจะต้องมีการเอาออกไปเตรียมในที่จัดเตรียมสินค้าของแต่ละเที่ยวบิน เพื่อจัดส่งเข้าไปในลานจอดเครื่องบินต่อไป และบอกว่าสถานที่ของคลังสินค้าคับแคบ ร้อน ไม่มีการระบายอากาศ ไม่มีแม้แต่พัดลม ในคลังสินค้ามีพัดลมแต่จำนวนไม่มาก เพราะกายภาพของคลังสินค้ามีอากาศถ่ายเทอย่างสะดวก หลังคาสูงกว่า 10 เมตร ผนังด้านข้างเป็นรั้วตาข่ายเหล็ก ด้านหลังมีประตูขนาดใหญ่เชื่อมกับลานจอดเครื่องบิน ทำให้มีลมพัดเข้ามาตลอด ถ้ามันร้อนจริงพนักงานเขาจะอยู่กันอย่างไร ถ้าท่านใดหรือสำนักข่าวไหนอยากเข้าไปพิสูจน์สถานที่ ติดต่อผมได้ตลอดเวลา ที่บอกว่าเอาเข้าไปในลานจอดคงเอาสุนัขไปตากแดด พนักงานคาร์โก้ไม่มีใครวิกลจริต ไม่มีใครบกพร่องทางจิตที่จะได้ทำเช่นนั้น เขาไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยถ้าหากทำเช่นนั้น เรากำชับทุกคนให้นำสัตว์เลี้ยงจอดในที่ร่ม และเขาจะถูกลงโทษทันทีถ้าฝ่าฝืน ที่เห็นอยู่ในลานจอดเขาออกไปหลังจากเครื่องลงแล้วเท่านั้น แล้วสุนัขตัวนี้มันอยู่นอกห้องแอร์ไม่ได้เลยหรือ เห็นรูปที่โพสต์และตอนที่ติดต่อ ทำเรื่องส่งก็เห็นอยู่นอกห้องแอร์ตลอด ถ้าแจ้งเราว่าเขาออกจากห้องแอร์ไม่ได้เลยเราคงไม่รับขนส่งแน่นอน และพูดถึงการปรับความดันของอากาศใต้ท้องเครื่องบินที่สุนัขอยู่มีอะไรขัดข้องหรือไม่ ผมจะพูดถึงเครื่องลำที่สุนัขเสียชีวิตเท่านั้น บินไฟล์ทแรกของวันไปอุบลราชธานี มีสุนัขไปด้วยทั้งไปและกลับ กลับมาบินไปตรังที่มีสุนัขตัวนี้เสียชีวิต แล้วบินต่อไปเชียงใหม่ก็มีสุนัขเดินทางไปด้วย ถ้ามีอะไรขัดข้องจริง สุนัขทุกตัวต้องตายหมด บอกสุนัขตายเพราะอ่อนเพลียจากการอยู่นอกห้องแอร์ บอกสุนัขตายเพราะความร้อนในลานจอด บอกสุนัขตายเพราะระบบความดันอากาศใต้ท้องเครื่อง สรุปว่าทุกขั้นตอนของคาร์โก้นกแอร์ผิดหมดใช่ไหม? ดีนะไม่ตายตอนอยู่ในห้องแอร์ คงจะบอกว่าปรับอุณหภูมิเย็นเกินไป
ตลอดระยะ 8 ปี เราขนส่งสุนัขพันธุ์นี้มาแล้วมากจนจำไม่ได้ว่าเท่าไรไม่เคยมีตายเลย แม้แต่ตัวเดียว เขาพูดความจริงแค่ครึ่งเดียว เลือกพูดเฉพาะที่ตัวเองได้ประโยชน์เท่านั้น ถ้าคาร์โก้นกแอร์ผิดจริง ทำไมไม่แจ้งความดำเนินคดี ผมรออยู่ มาพิสูจน์กันเลย ทำไมถึงเลือกไปโพสต์ในโซเชียล เพื่อให้กระแสสังคมมากดดัน มันเป็นการพูดข้างเดียว คนที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น ไม่มีใครรู้ความจริง ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ ไม่มีใครเห็นสถานที่ ทุกคนจินตนาการเอาเองทั้งนั้น ถ้าเขารักสุนัขจริงเขาต้องสนใจรายละเอียดต่าง ๆ มากกว่านี้ เขาเอาสุนัขซึ่งอายุยังน้อยเดินทางไกลมาจากเพชรบูรณ์ มาไกลขนาดนี้คนเป็นผู้ใหญ่ยังแย่เลยและเขายังเอาสุนัขใส่ในกรงที่สุนัขยืนและกลับตัวไม่ได้ จนทางคาร์โก้ต้องให้เปลี่ยนกรงให้ใหญ่ขึ้นถ้ามันไม่จริงเขาจะยอมเปลี่ยนกรงไหมเพราะมันต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม เราย้ำกับพนักงานเสมอว่า สัตว์ก็มีชีวิตเหมือนเรา ถ้าเขาจับเราเข้าไปในกรงที่ยืนและกลับตัวไม่ได้ เราจะรู้สึกอย่างไร ทางคาร์โก้เราบังคับให้สุนัขทุกกรงติดขวดน้ำตลอด เราสนใจในรายละเอียดต่าง ๆ มากกว่าคนที่บอกว่ารักสุนัขเหมือนลูกอีก แต่เขาทำเพียงขอให้ได้ส่งเท่านั้น แถมเงินในตัวยังไม่พอจ่ายค่ากรง พนักงานคาร์โก้ต้องช่วยจ่ายให้ก่อนแล้วเขาถึงโอนมาให้ภายหลัง และสิ่งที่ผมจะบอกต่อไปนี้คือสิ่งที่เขาไม่เคยบอกกับสื่อที่ไหนเลย คือเขานำสุนัขเดินทางมาถึงที่คาร์โก้ช้ากว่าเวลาที่กำหนด เขาเป็นฝ่ายขอร้องให้ช่วยรับสุนัขไว้ คาร์โก้ช่วยแก้เอกสารซึ่งปิดไปแล้วสำหรับเที่ยวบินนั้น เพราะเห็นใจว่าเดินทางมาไกล สุนัขเดินทางมาไกล อายุยังน้อย เขาบอกว่าสุนัขสุขภาพแข็งแรงดี พิสูจน์ได้จากไหน มีใบรับรองการตรวจสุขภาพจากสัตวแพทย์มาแสดงไหม มีคนตั้งมากมายเดินแข็งแรงอยู่ดี ๆ ล้มลงเสียชีวิตก็มี สุนัขเขาบอกไม่ได้ว่า เขาเหนื่อย เขาเครียด เขาตื่นเต้น และต้องไปอยู่กับคนแปลกหน้าในสถานที่ ที่เขาไม่คุ้นชิน มีทั้งเสียงดังจากอุปกรณ์ต่าง ๆ รวมทั้งเสียงดังของเครื่องบิน และเมื่อมาไม่ทันเวลา ก็ทำให้สุนัขไม่มีโอกาสได้พักผ่อน ก่อนขึ้นเครื่องบิน รวมถึงเวลาที่อยู่ในห้องแอร์ก็น้อยตามไปด้วย ตกลงการมาช้า คาร์โก้นกแอร์ผิดอีกใช่ไหม และที่สำคัญก่อนการส่งสุนัข เขาได้ลงรายมือชื่อ พร้อมแสดงเบอร์โทรศัพท์ พร้อมลงรายละเอียดในเอกสารเพื่อยอมรับว่าในการขนส่งสัตว์เลี้ยงทางอากาศครั้งนี้ หากมีการตาย บาดเจ็บ หรือเสียหายเกิดขึ้น ผู้ขนส่งจะไม่รับผิดชอบหรือชดใช้ค่าเสียหายใด ๆ คนอย่างเขาถ้าไม่เข้าใจ ถ้าไม่ยอมรับและเห็นว่าไม่เป็นธรรม เขาคงไม่ยอมลงชื่อย่างแน่นอน ผมยืนยันว่า เราปฏิบัติตามขั้นตอนการทำงานทุกอย่าง ไม่ได้ปล่อยปะละเลย วันนั้นทั้งวันมีสัตว์เลี้ยงขนส่งผ่านทางนกแอร์ ร้อยกว่าตัว ไม่ใช่ตัวนี้ตัวเดียว ทำไมถึงมีตายแค่ตัวเดียว ปกติแล้วถ้าพนักงานคาร์โก้คนใด แค่เอามือแหย่เข้าไปในกรงสุนัขเรายังเรียกมาตักเตือนเลย ผมไม่ใช่คนโลกสวย ไม่ประดิษฐ์ประดอยคำพูด ผมอยู่กับความจริง สุนัขตัวนี้ไม่ใช่ตัวแรกหรือตัวเดียวในโลกที่เพิ่งตาย วันๆ หนึ่งเฉพาะในประเทศไทย มีสุนัขตายเท่าไหร่ ถูกทำร้าย ถูกทารุณเท่าไหร่ เอาเฉพาะรถชนตายอย่างเดียวก็ไม่รู้เท่าไหร่ ถูกฆ่าเป็นอาหารอีกเท่าไหร่ เขาไม่ได้รักสุนัขมากมายอะไร ถ้าได้เงินตั้งแต่แรกก็จบไปแล้ว และสิ่งที่ผมอยากจะบอกสังคมเกี่ยวกับสุนัขคือ นกแอร์เราทำเพื่อสุนัขมาโดยตลอด และทำมานานแล้ว โดยที่สังคมไม่เคยได้รับรู้ เพราะนกแอร์ทำด้วยใจจริง ๆ ไม่ต้องการทำเพื่อเอาหน้า คือท่านผู้บริหารระดับสูงของนกแอร์ให้การอุปถัมภ์ มูลนิธิสุนัขในซอย (SOI DOG) ซึ่งเป็นองค์กรที่ช่วยเหลือสุนัขจรจัด ถูกทำร้าย หรืออยู่ในภาวะที่เป็นอันตรายต่อชีวิต หรือกำลังจะถูกฆ่าเป็นอาหารให้ได้ไปอยู่ในที่ปลอดภัย โดยการจัดหาเจ้าของใหม่ให้ (แต่ไม่ใช่การส่งไปขายเพื่อหารายได้ แต่มาบอกว่าส่งไปหาพ่อแม่ใหม่ และเป็นค่านม) โดยนกแอร์ยกเว้นค่าจัดส่งทั้งหมด ไม่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขใด ๆ ทั้งสิ้น ขอเพียงแจ้งล่วงหน้าว่าจะส่งไปจังหวัดไหน แล้วนำมาส่งที่คลังสินค้าคาร์โก้นกแอร์ ให้ทันเวลาเครื่องออกเท่านั้น นกแอร์ช่วยให้สุนัขเหล่านี้รอดตายมาแล้วมากมาย จนจำไม่ได้ว่าจำนวนเท่าไหร่ มูลนิธิสุนัขในซอย ท่านออกมาบอกสังคมหน่อยเถิดว่า ท่านและนกแอร์ ทำให้สุนัขรอดตายไปแล้วเท่าไหร่ และบอกด้วยว่า สุนัขที่นกแอร์จัดส่ง เคยมีตายบ้างไหม และตอนที่น้ำท่วมใหญ่กรุงเทพฯ เมื่อปี พ.ศ. 2554 คนที่เลี้ยงสุนัข ที่มีบ้านเดิมอยู่ต่างจังหวัด มีเพื่อน มีญาติ มีคนรู้จักอยู่ต่างจังหวัด ส่งสุนัขเพื่อหนีน้ำไปต่างจังหวัด จำนวน ผมใช้คำว่า “มหาศาล” ผ่านทางนกแอร์ เพราะเส้นทางคมนาคมทางบกถูกตัดขาดหมด และไม่มีสายการบินใด ที่ดอนเมืองรับ-ส่ง สัตว์เลี้ยงเลย เราอำนวยความสะดวก โดยที่ไม่ต้องมีเงื่อนไขอะไรเลย เพียงขอให้สุนัขได้ไปอยู่ในที่ปลอดภัย นกแอร์ทำให้สุนัขเหล่านี้รอดตายจากน้ำท่วมโดยที่ไม่เคยป่าวประกาศให้สังคมได้รับรู้เลย นกแอร์ไม่ได้ทำให้สุนัขตาย เราปฏิบัติอย่างถูกขั้นตอน ไม่เช่นนั้น 8 ปีที่ผ่านมา กว่า สองแสนตัว คงมีตายอย่างมากมาย ตรงกันข้าม นกแอร์ช่วยให้สุนัขรอดตาย มาแล้วเป็นจำนวนมาก คนโลกสวยไม่ต้องเข้ามา ถ้าผิดจริง ผมบอกให้ไปแจ้งความดำเนินคดีแล้ว ใครก็ตามที่ตำหนินกแอร์เรื่องสุนัข ก้มลงสำรวจตัวเอง เสียก่อนว่า ทำได้สักหนึ่งในล้านที่นกแอร์ทำเพื่อสุนัขไหม ผมเป็นห่วงและเห็นใจธุรกิจที่เคยทำร่วมกับนกแอร์มาตลอด ช่วยเหลือเกื้อกูลกันมาตลอด ตอนนี้เขากำลังเดือดร้อนอย่างหนัก แม้แต่พันธ์ปลา ปลาสวยงาม ก็พลอยเดือดร้อนไปด้วย สะใจใช่ไหม? สบายดีอยู่ไหม?
‪#‎ช่วยเเชร์ให้โลกรู้หน่อยนะครับ‬
ขอบคุณครับ


q1_102.jpg
q2_95.jpg

q3_73.jpg

q4_37.jpg

q5_26.jpg

ภาพและข้อมูลจาก คุณ Suraphon Chaiyot
loading...
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

รายละเอียดเครดิต


โทรศัพท์มือถือ|รายชื่อผู้ถูกระงับบัญชี|dogthailand.net

แนะนำที่พัก โรงแรม รีสอร์ท สัตว์เลี้ยงเข้าพักได้ ทั่วประเทศ

GMT+7, 2024-9-17 03:33 , Processed in 0.075772 second(s), 21 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้